“ห้องอัดเสียง” พื้นที่ปิดที่ช่วยสรรสร้างเสียงดนตรีและคำร้องให้กับวงการเพลง ซึ่งปัจจุบัน “ห้องอัดเสียง” ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อนักร้องหรือนักดนตรีอาชีพเท่านั้น แต่ยังเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง YouTuber หรือ Content Creator ซึ่งเข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายขึ้นและง่ายกว่าเดิม
“ห้องอัดเสียง”ถูกออกแบบให้เป็น “พื้นที่ปิด” เพื่อกักเก็บเสียงให้มีคุณภาพมากที่สุด และไม่ให้เกิดเสียงรบกวน (noise) เล็ดลอดออกมา ทั้งนี้การเลือกใช้ไม้ในการออกแบบดีไซน์เพื่อความสวยงามและเข้ากับโครงสร้างของการออกแบบห้องอัดเสียงนั้น จำเป็นต้องไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งผู้สร้างส่วนมากมักมองข้ามอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญนั่นก็คือ “กลิ่น” ซึ่งมาจากไม้ที่ใช้ตกแต่งนั้นมีสารฟอร์มัลดีไฮด์อยู่เป็นปริมาณมากและจะยิ่งได้กลิ่นชัดมากเมื่ออยู่ในห้องปิดแบบนี้ ผู้ใช้หลายคนจึงมักพบปัญหาแสบตา แสบจมูก เมื่อเข้าไปใช้ห้องอัดเสียง แต่ปัญหานี้ มีทางแก้หรือไม่?
บทสัมภาษณ์ครั้งนี้ พาเนล พลัสได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับคุณต้น (ชาญกฤษณ์ บุญสิงห์) อดีตโปรดิวเซอร์ค่ายเพลงชื่อดังที่ได้ผันตัวมาเป็น”ผู้สร้างห้องอัดเสียง” ให้กับนักร้องและ YouTuber ชื่อดังของเมืองไทย โดยคุณต้นจะอธิบายถึงประสบการณ์ต่างๆ ทั้งการออกแบบ เรื่องของเสียง ไปจนถึงวิธีแก้ปัญหา”ห้องอัดเสียงที่แสบตา” ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้มีประสบการณ์ที่ดีที่สุด
จากผู้ใช้งานห้องอัดเสียง… สู่คนสร้างห้องอัดเสียง
สวัสดีครับ ผม “ต้น”ชาญกฤษณ์ บุญสิงห์ นะครับ ตอนนี้เป็นโปรดิวเซอร์อิสรครับ อดีตเคยผลิตเพลงในค่าย RS ค่าย True Music ครับ
ทำเพลงมานานแค่ไหนแล้ว?
เริ่มทำเพลงตั้งแต่เรียนจบเลยครับ ก็อยู่วงการนี้มา 20 ปีได้แล้ครับ เพราตอนนี้ก็อายุ 40 ปีแล้ว (หัวเราะ)
แรงบันดาลใจอะไร ที่ทำให้หันมารับทำห้องอัดเสียง?
เริ่มจากผมอยากมีห้องอัดเป็นของตัวเองครับ แต่ไม่มีปัญญาไปจ้างคนอื่นเพราะราคาแพงมาก มันแพงจริงๆ ต้องมีเงินอย่างน้อย 500,000 บาทขึ้นไป แต่เราก็อยากจะมี แต่ไม่มีทุนขนาดนั้น เราก็เลยใช้วิธีศึกษาเองว่าทำยังไง มันถึงจะเป็นห้องอัดแบบที่เราต้องการได้บ้างที่ราคาถูกลง
ข้อสำคัญในการทำห้องอัดเสียงคืออะไร ?
ห้องอัดเสียง มีองค์กระกอบอยู่ 2 ส่วนประกอบที่สำคัญมากคือ
ข้อแรก “เสียงต้องไม่ออกจากห้อง” นะครับ ข้อสองคือ “เสียงไม่ก้อง” ซึ่งทั้งสองข้อนี้ ต้องใช้เทคนิคคนละวิธีกัน
“เสียงไม่ออกห้อง”หมายความว่ากำแพงต้องหนา มีวัสดุที่ซับเสียงกำแพง เพื่อให้กำแพงนั้นมีความหนาพอที่จะให้เสียงเนื้อไม่สั่นออกไปอย่างเช่นห้องที่ผมทำอยู่ตอนนี้ครับ โดยทำกำแพงทั้งหมดสามชั้น เราทำค่า STC ได้สูงมากเลยที่ 81 นอยส์ที่ออกจากห้องไปจะน้อยมากครับ และในส่วน”เสียงไม่ก้อง” จะใช้เป็นวัสดุสะท้อนเสียง ก็คือสะท้อนออกมาเพื่อให้เสียงยังคงคุณสมบัติของตัวมันเองอยู่ครับ
เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างห้องอัดเสียงไหม?
เราเคยใช้ไม้สนหรือไม้ยางประสานมาใช้ในการทำ คือเอาไม้ที่เป็นไม้โครงมาขึ้นเป็นรูปทรง แล้วผลิตก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แค่ติดปัญหาแสบตานิดๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาที่มันใหญ่มาก แต่ปัญหาจริงๆ คือใช้เวลาในการทำงานนานมาก
ในหนึ่งห้องอาจจะใช้เวลาในการสร้างเป็นเดือน เพราะเหมือนเราเอาไม้ทีละอันมาสร้างโครงเป็นจิกซอว์ประกอบห้อง ใช้เวลานานมาก ตอนหลังผมไปเจอเทคนิคที่แบบเอาไม้เอ็มดีเอฟ แล้วเอาไม้ทั้งอันมาเป็นจิกซอว์เลยตามรูปทรงที่เราต้องการ แล้วเอาสิ่งที่ตัดไปทำต่อที่โรงงาน แล้วค่อยมาประกอบที่หน้าบ้านลูกค้าอีกทีนึง มันทำให้เวลาลดลงเยอะ
อย่างสองห้องอัดเสียงล่าสุดที่ผมทำ ใช้ไม้เอ็มดีเอฟเต็มระบบเลย ซึ่งเกิดปัญหามหาศาลเลยครับ ไม้เอ็มดีเอฟแสบตามาก เข้าไปน้ำหู น้ำตาไหล สุดท้ายเกิดปัญหาว่าลูกค้าต้องให้รื้อ
แล้วแก้ปัญหาได้ยังไง?
ผมก็หาข้อมูลมาเรื่อยๆ จนมาเจอ พาเนลพลัส แล้วก็ได้โทรไปหา ทีมงานพาเนล พลัสให้ข้อมูลดีมาก ว่าที่ไม้มันแสบตาเพราะอะไร แผมก็เลยได้สั่งไม้จากพาเนล พลัส มาใช้ห้องที่ต้องแก้นี้ ขออนุญาตเอ่ยชื่อว่า ห้องของพี่บอล เชิญยิ้ม แก้ไปปุ๊บ แฮบปี้เลยครับ ไม่มีปัญหา
ลดเวลาการทำงานไปเยอะแค่ไหน ?
ลดระยะเวลาการทำงานไปเยอะครับ เมื่อก่อนผมคิดว่าห้องอัดเสียงห้องหนึ่ง ผมจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ถึง 1 เดือน แต่ตอนนี้ผมพบเทคนิคใหม่ที่ผมได้ใช้กับไม้ของพาเนล พลัส ผมกล้าพูดเลยว่าไม่เกิน 10 วัน และเข้างานจริงหน้างานที่บ้านลูกค้าประมาณ 2-3 วัน ไม่เกินนี้เลยครับ
สุดท้ายมีอะไรอยากฝากไหม?
ก็อยากจะฝากอย่างนี้ครับ ถ้าเกิดเราได้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน ผมจะทำห้องอัดเสียงทุกห้องเหมือนเป็นห้องของตัวเองเลย เพราะฉะนั้นผมจะใส่ใจทุกอย่างที่จะทำให้ลูกค้าทุกคนแฮบปี้นะครับ วันที่ได้รู้จักกับไม้เกรด E1 กับ E0 ที่เป็นเทคโนโลยี Air Safety Glue ลดสารฟอร์มัลดีไฮด์ในเนื้อไม้ของพาเนล พลัส นะครับ ทำให้ทุกอย่างที่ผมกังวลได้หายไป แล้วก็พิสูจน์แล้วว่าห้องที่ผมทำหลังจากได้รู้จักพาเนล พลัส ทุกห้องเวิร์คมากจริงๆ ครับ
